15 สิ่งที่ต้องรู้ ก่อนบุกตลาดจีน

15 สิ่งที่ต้องรู้ ก่อนบุกตลาดจีน

1.สื่อออนไลน์

เราได้ยินกันมาหลายต่อหลายครั้งภายในปีที่ผ่านมาว่าการตลาดแบบเดิม ๆ

เริ่มใช้ไม่ได้ผลและมีการลงทุนที่สูงมากเมื่อเทียบกับการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมาย

เช่นเดียวกับเมืองไทยที่คนจีนนั้นนิยมใช้ออนไลน์เป็นเครื่องมือสื่อสารและ

การทำธุรกรรมต่าง ๆ แต่ยิ่งไปกว่านั้นตลาดจีนถือว่าเป็นตลาดที่พัฒนาก้าวไกล

กว่าประเทศอื่น ๆ ในเรื่องของแอพพลิเคชั่นและแพลตฟอร์มออนไลน์

โดยปัจจุบันมีอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมากถึง 65% ของประชากรทั้งหมด

จึงหาทำให้การตลาดออนไลน์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับบริษัทไทย

 2.พฤติกรรมชาวเน็ตของจีน

ตัวเลขที่น่าสนใจอีกอันนึงคือการที่คนใช้อินเตอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลในเมืองจีน

มีมากถึง 1.5 ชั่วโมงต่อวัน แล้วนั้นการที่คุณจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นที่รู้จัก

และต้องการของผู้บริโภคได้คุณจะต้องมีข้อมูลภาษาจีนในโลกออนไลน์ให้ครบ

เข้าถึงง่าย และน่าเชื่อถือเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ

อีกทั้งยังควรมีการวิเคราะห์ Keyword ที่คนจีนใช้ในการค้นหาข้อมูลนั้น

เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นหนึ่งในตัวเลือกเมื่อเขามีความต้องการ

 

3.แพลตฟอร์มในจีน

เราคงรู้จักแพลตฟอร์มรายใหญ่ในฝั่งยุโรปและเมริกากันอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น Facebook

หรือ Google แต่ทราบหรือไม่ว่ารัฐบาลจีนได้มีการบล็อคเว็บไซต์เหล่านี้

ไม่ให้เข้ามาในประเทศ ทำให้คนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้

ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่แต่อย่างไรแต่เป็นมานานหลายปีแล้วช่วยทำให้เมืองจีน

เองมีการพัฒนา เช่น Weibo ซึ่งเปรียบเสมือน Facebook & Twitter

หรือใช้ Baidu แทน Google แม้แต่ Amazon ก็ไม่สามารถใช้ได้

และหันมาใช้ TMall, Taobao, JD แทน นักการตลาดจะต้องศึกษาแพลตฟอร์มเหล่านี้

เป็นอย่างดีเพื่อที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคจีนได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น

4.ยักษ์ใหญ่ในจีน

เมื่อพูดถึงตลาดออนไลน์ในประเทศจีนมีอยู่สามยักษ์ใหญ่ด้วยกันที่เรา

ไม่สามารถมองข้ามได้ ซึ่งมักจะมีตัวย่อว่า BAT หรือ Baidu Alibaba Tencent

ซึ่งแต่ละบริษัทมีแพลตฟอร์มที่น่าสนใจมากมายและมีจำนวนผู้ใช้เยอะมากทีเดียว

บริษัทไหนก็ตามที่พยายามโตในประเทศจีนจะต้องใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้อย่างแน่นอน

 5.สินค้าต่างประเทศ

ผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศมักถูกมองว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือมากกว่า

สินค้าที่ผลิตในประเทศจีน ดังนั้นสินค้าจากไทยถือว่าได้เปรียบเมื่อเทียบ

กับผลิตภัณฑ์ของจีนเอง แม้การขออนุญาตนำเข้าของผลิตภัณฑ์จะใช้เวลานาน

แต่ก็คุ้มค่าเพราะเมื่อสามารถวางขายในประเทศจีนได้เองแล้วนั้น

การเข้าถึงของลูกค้าจะสะดวกมากขึ้น และนี่เองก็เป็นเหตุผลที่ทำไมนักท่องเที่ยวจีน

นิยมซื้อของในประเทศไทยโดยเฉพาะใน Duty Free

ถ้ามีความเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ที่ซื้อจากต่างประเทศนั้นมีคุณภาพและภาพลักษณ์ที่ดี

เหมาะสำหรับการซื้อเป็นของฝาก บริษัทไทยจึงควรที่จะเน้นการรับรู้ของแบรนด์

ให้ลูกค้าทราบถึงที่มาที่ไปของบริษัทรวมถึงคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์

มากกว่าการสื่อสารเรื่องคุณภาพ

 

6.Search Engine Optimization

เมื่อพูดถึงการค้นหาทางโลกออนไลน์เราจะต้องคำนึงถึง SEO ขึ้นอย่างแน่นอน

นั่นก็คือทำอย่างไรให้ข้อมูลไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ของเราหรือบทความต่าง ๆ

ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเราขึ้นเป็นอันดับต้นต้นในการค้นหา

ในเมืองจีนมีเว็บไซต์ที่เอาไว้ใช้ค้นหาข้อมูลอยู่ 2-3 อันแต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ Baidu

ซึ่งมีการเข้าถึง 75% ของการค้นหาทั้งหมดในอินเตอร์เน็ต

ผู้ประกอบการควรจะต้องมีเว็บไซต์ภาษาจีนที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว

อีกทั้งยังมีบทความที่เกี่ยวข้องเขียนลงในเว็บไซต์ชั้นนำของจีน

เพื่อดึงดูดลูกค้าในวงกว้างอีกทาง เว็บไซต์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีอันดับการค้นหา

ที่สูงอยู่แล้วเนื่องจากจำนวนคนใช้ที่มหาศาล

 

7.ฟอรั่มแล้วเว็บบอร์ด

ในเมืองจีนจะมีคนที่โดนหลอกจากโฆษณาที่เกินจริงอยู่เสมอ

จะทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่เชื่อในโฆษณาจากแบรนด์โดยตรง

เหมือนกันโฆษณาของแบรนด์จะทำให้เกิดการรู้จักชื่อและผลิตภัณฑ์มากขึ้น

แต่ความน่าเชื่อถือของข้อความหรือบทความที่ออกมาจากแบรนด์โดยตรง

นั้นมีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย ผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงจะทำการค้นหาและอ่านข้อมูล

ทั้งฟอรั่มและเว็บบอร์ดต่าง ๆ คล้ายคลึงกับคนไทยที่ใช้พันทิปเพื่อที่จะดูคอมเมนต์

และคำแนะนำจากผู้บริโภคด้วยกันเอง ซึ่งฐานข้อมูลเหล่านี้สามารถแฝงตัวเข้าไปเขียนบทความและให้ข้อมูลในเชิงผู้บริโภคได้เช่นเดียวกัน

 

8.Return on investment ความคุ้มทุนของงบโฆษณา

การโฆษณาออนไลน์สามารถเข้าถึงง่ายกว่าการตลาดแบบอื่น ๆ เนื่องจากงบประมาณเริ่มต้น

เมื่อเทียบกับการตลาดแบบอื่นนั้นถือว่าน้อยมากทีเดียวแล้วยังสามารถวัดผลได้ชัดเจน

แต่ปัญหาของคนส่วนใหญ่ก็คือผลตอบรับที่ได้เมื่อเทียบกับงบประมาณที่ลงไปอาจจะไม่คุ้มค่า

ถ้ากลยุทธ์และวิธีการใช้เครื่องมือนั้นไม่ถูกต้อง ประเทศจีนนั้นกว้างใหญ่ไพศาลจึงทำให้ความต้องการของคน

แต่ละเมืองนั้นไม่เหมือนกัน ผลิตภัณฑ์ของเราอาจจะเหมาะสำหรับบางเมืองมากกว่าเมืองอื่น ๆ

ดังนั้นแบรนด์ไทยควรจะทำการตลาดในวงแคบก่อนเพื่อวัดผลและศึกษาทดลองผลลัพธ์ที่ได้และความคุ้มค่าก่อน

ที่จะลงทุนงบประมาณก้อนใหญ่ลงไปในการตลาดจีน นอกจากนี้ราคาค่าการตลาดเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์ม

ของต่างประเทศนั้นถือว่ามีราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว บางคำโฆษณาความแตกต่างนี้อาจจะถึง 5 เท่าเลยทีเดียว

 9.ลืมเรื่องเก่า ๆ แล้วเริ่มต้นกันใหม่

ปัญหาที่จะพบบ่อยโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ในไทยก็คือการวางแผนกลยุทธ์โดยใช้ตลาดไทยเป็นบรรทัดฐาน

นอกจากผู้บริโภคของจีนยังมีความต้องการและความชอบแตกต่างกับผู้บริโภคในไทย

ทั้งการรับรู้ของแบรนด์ไทยที่ยังไม่เคยไปบุกตลาดจีนอย่างจริงจัง ด้วยเหตุผลนี้เองผลิตภัณฑ์ไทยที่มีชื่อเสียง

และประวัติความเป็นมาอันยาวนานไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าจะประสบความสำเร็จในตลาดจีน

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไหนก็ตามควรทำการทดลองตลาดกับผู้บริโภคกลุ่มย่อย ๆ ก่อนที่จะลุยตลาดจีน

เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมบริโภคของจีนและผลตอบรับต่อผลิตภัณฑ์เผื่อที่ว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับนิสัย

และความต้องการของลูกค้าจีนก่อน

 

 

10.WeChat เป็นมากกว่าที่เห็น

ทุกบริษัทจำเป็นต้องมี WeChat ไว้คอยติดต่อสื่อสารกับลูกค้าไม่ว่าจะเป็น การปิดการขายหรือบริการลูกค้า

ล้วนใช้ WeChat ในการติดต่อสื่อสารกันทั้งนั้น แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ทราบก็คือ WeChat

เป็นมากกว่าโปรแกรมไว้คุยกัน คนจีนส่วนใหญ่ใช้ WeChat ในการเข้าถึงบริการอื่น ๆ เช่นการจ่ายค่าน้ำค่าไฟ

การจองตั๋วหนัง ตัวเครื่องบิน ตั๋วรถไฟ หรือแม้แต่การเรียกแท็กซี่ และการสั่งซื้อของออนไลน์

ล้วนแล้วสามารถทำได้ใน WeChat ทั้งหมด บริษัทไทยจึงควรหาฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องและสามารถใช้ในการ promote

สินค้าและผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นโดยใช้แพลตฟอร์ม WeChat นี้เป็นหลัก

 11.ผู้มีอิทธิพลทางอินเตอร์เน็ต KOL

KOL ย่อมาจาก Key Opinion Leader ซึ่งเป็นบุคคลที่นำกระแสและมีอิทธิพลทางอินเตอร์เน็ตมีแฟนคลับ

จำนวนมากไม่ว่าจะเป็นในโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ บุคคลเหล่านี้เป็นคนที่น่าเชื่อถือ

และมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสายตาผู้ติดตามของเขา ดังนั้นเมื่อเราทราบว่า 30% ของการตัดสินใจซื้อของออนไลน์

มาจากการพูดปากต่อปากจึงทำให้การ promote โดยใช้ KOL เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์เลยทีเดียว

เราควรจะต้องเลือก KOL ที่มีฐานแฟนคลับตรงกับลูกค้าเป้าหมายของผลิตภัณฑ์เรา

อีกทั้งคนทำงานใกล้ชิดกับ KOL ในการคิดคอนเทนท์โดนใจแฟนคลับ ไม่ใช่เพียงแต่โฆษณาโปรโมชั่นออกไป

 12.วิดีโอViral

การประโหมดอีกวิธีหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยคือการใช้วิดีโอสั้นเป็นตัวเล่าเรื่องราวและสื่อถึงแบรนด์

โดยวิดีโอเหล่านี้ไม่ควรยาวเกินหนึ่งถึง 2 นาทีเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคจีนส่วนใหญ่ให้ดูวิดีโอ

จากมือถือและอยู่ระหว่างการเดินทาง จึงต้องการวิดีโอที่กระชับได้ใจความและน่าสนใจ

บริษัทที่มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถสร้างคอนเทนท์วิดีโอให้เป็นที่น่าสนใจและกระตุ้นการแชร์

และบอกต่อได้จะประสบความสำเร็จและมีผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากว่าบริษัทอื่น ๆ อีกทั้งบริษัทควรจะทำคอนเทนท์

แนวนี้ออกมาอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ผู้คนติดตามและเป็นการสร้างแบรนด์ให้ชัดเจนมากขึ้น

13.Live การถ่ายทอดสด

การถ่ายทอดสดเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากชาว

อินเตอร์เน็ตจีนซึ่งในปีที่ผ่านมามีแอปพลิเคชั่นถ่ายทอดสดออกมาอย่างมากมาย

การถ่ายทอดสดทำให้ผู้ดูมีปฏิสัมพันธ์กับคนถ่ายทอดสดได้จึงทำให้เป็นช่องทางที่ดี

ในการ promote หรือขายสินค้า มันควรจะศึกษาหารายการช่องทางหรือคนถ่ายทอดสด

ที่มีแฟนคลับตรงกับกลุ่มเป้าหมายของบริษัท

 14.สร้างความรู้จักในไทยก่อน

การซื้อของหรือสินค้าต่างประเทศนั้นต้องคำนึงถึงหลายสิ่ง ต้องค้นหาข้อมูลให้ลึกซึ้ง

แต่มีอย่างหนึ่งที่สามารถตัดความกังวลทั้งหมดนี้ไปได้นั่นก็คือความนิยมในไทย ผู้บริโภคส่วนใหญ่

ที่พอจะมีคนรู้จักในประเทศไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศของเราจะถามคำถาม

สำคัญอันหนึ่งซ้ำ ๆ นั่นก็คือแบรนด์และผลิตภัณฑ์นี้เป็นที่นิยมของคนไทยหรือไม่

แม้บริษัทจะทำการตลาดในประเทศจีนมากแค่ไหนก็ตามแต่เมื่อเช็คมาแล้วไม่มีใครรู้จักในประเทศไทย

ก็จะสร้างความน่ากังวลใจให้กับผู้บริโภคที่กำลังพิจารณาซื้อผลิตภัณฑ์เราอยู่

ดังนั้นการสร้างกระแสและความรู้จักให้กับคนจีนในเมืองไทยและคนไทยด้วยกันเองก็สำคัญไปไม่น้อย

 15.คนจีนที่พูดไทยได้กับคนไทยที่พูดจีนได้

ภาษานั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนไม่ว่าจะเป็นการพูดอ่านและเขียน สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือการใช้ถ้อยคำ

และภาษาในการสร้างคอนเทนท์ให้กับคนจีนควรจะให้พนักงานจีนเป็นคนคิดขึ้นแทนที่จะใช้คนไทยที่พูดจีนได้

หลายต่อหลายครั้งที่เราเห็นบริษัทที่ใช้คนไทยหรือแม้แต่คนจีนจากประเทศสิงคโปร์

ไต้หวันหรือฮ่องกงมาคิดคอนเทนท์สำหรับจีนแผ่นดินใหญ่และไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ควร

เราต้องเข้าใจก่อนว่านอกเหนือจากสำเนียงและภาษาที่ใช้อาจใช้เหมือนกันแต่ความเข้าใจและ

นิสัยใจคอไม่เหมือนกันแน่นอนจึงทำให้การจับประเด็นความน่าสนใจไม่เหมือนกัน

นี่แหละครับเป็นเหตุผลที่คนจะจังพลังงานจากจีนแผ่นดินใหญ่มาเป็นทีมทำการตลาดหรือไม่

ก็หาที่ปรึกษาการตลาดจีนในไทยนี้ค่อยช่วยเหลือครับ

 

 

http://addurl.nu